Labtop ยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Labtop ยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การเลือกซื้อโน้ตบุคในปัจจุบัน

คงต้องยอมรับว่าในยุคที่โลกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในเรื่องของเทคโนโลยี ทำให้หลายๆสิ่งเปลี่ยนไปในช่วงข้ามคืน ยกตัวอย่างเช่นหากคุณเกิดในยุค 90 อาจจะคุ้นตากับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ๆ หรือโน้ตบุคที่มีน้ำหนักมาและพกพาไม่สะดวก ไปจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อคนหันมาสนใจแทปเล็ตมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของระบบคลาวด์ที่ทำให้ความจุของโน้ตบุคไม่ใช่สิ่งจำเป็น เนื่องจากในทุกๆวันนี้ โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับเราในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบริการ wi-fi สาธารณะ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุม แอพพลิเคชั่นช่วยนำทางหรือแม้แต่การจองตั๋วหนังตั๋วเครื่องบิน ลองจินตนาการถึงยุคที่เราสามารถฝากสิ่งของ ไฟล์สำคัญ เอกสารต่างๆไว้ในอินเตอร์เน็ตที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถหยิบออกมาใช้ได้ทุกเมื่อทุกที่ทุกเวลา คอนเซปดังกล่าวจึงเป็นที่มาของระบบคลาวด์ ซึ่งเปรียบก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนฟ้าเป็นดั่งข้อมูลที่เราฝากไว้ในระบบ พัฒนาเป็นการที่เรานำเอกสารเหล่านั้นฝากไว้ใน cloud แล้วสามารถเข้าถึงมันในทุกๆอุปกรณ์ จากที่เราต้องลงโปรแกรมเพื่อพิมพ์เอกสาร พัฒนาเป็นการที่เราใช้โปรแกรมเอกสารที่มีพร้อมให้ใช้งานได้ทันทีบนระบบอินเตอร์เน็ต

ดังนั้นในการเลือกซื้อโน้ตบุคดีๆสักเครื่องในทุกวันนี้จึงเป็นเรื่องยากเพราะมักจะเกิดคำถามในใจคือ “จะซื้อโน้ตบุคหรือจะซื้อแทปเลตดี?” คำตอบนั้นง่ายมากครับ “ก็ซื้อทั้งสองอย่างเลยสิ” เพราะ Microsoft เข้าใจเรื่องนี้ดี จึงได้ส่งเจ้าสิ่งนี้มาตอบสนองคุณ!

Microsoft Surface Pro 4

Microsoft surface pro 4 นับว่าเป็นอีกขั้นของนวัตกรรม เพราะมันสามารถเป็นได้ทั้งโน้ตบุคและแทปเล็ตในเวลาเดียวกันนั่นเอง สามารถทำได้ทั้งพิมพ์งานผ่านทาง type cover หรือทำงานด้านกราฟฟิคผ่านทาง surface pen ที่ทำให้การทำงานของคุณสะดวกและไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยความสามารถที่ล้นเครื่อง ทั้งยังมีขนาดที่เล็ก ที่สำคัญคือขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก intel ที่ทำให้คุณทำงานของคุณได้อย่างรวดเร็ว

Microsoft Surface มีมาแล้วกี่รุ่น

ตระกูล Microsoft surface

  • Microsoft surface
  • Microsoft surface 2
  • Microsoft surface 3

ตระกูล Microsoft surface pro

  • Microsoft surface pro
  • Microsoft surface pro 2
  • Microsoft surface pro 3
  • Microsoft surface pro 4
  • Microsoft surface pro (2017)

โดยในแต่ละรุ่นของ Microsoft surface / surface pro จะแบ่งสเปกออกย่อยๆเป็น

  • Display
  • Processor
  • Software
  • Harddrive
  • Memmoty
  • Graphic
  • Weight
  • Security
  • Wireless
  • Cameras, video and audio
  • Sensor
  • Port

ทำไมต้องเป็น Microsoft Surface Pro 4

เป็นคำถามที่ใครๆต่างก็ต้องการคำตอบว่าทำไมเราถึงต้องเลือกใช้ Microsoft surface pro 4 นั่นก็เป็นเพราะ Microsoft surface pro 4 นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมาในด้านของ CPU ที่นำเอา 6th-Gen Intel Core SkyLake ออกมาใช้งานเป็นรุ่นแรก โดยที่จะมีความเร็วมากกว่า Microsoft surface pro 3 ถึง 30% โดยรุ่นนี้จะมีให้เลือก Rom ได้สูงสุด 1TB และ Ram ได้สูงสุดถึง 16 GB นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบ Fingerprint Scanner นี้จะมีเฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐเท่านั้น

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า Microsoft surface pro 4 มีระบบ Hybrid Cooling System ที่ทำหน้าที่ในการระบายความร้อนให้กับเครื่องที่ทำออกมาได้ดี จนทำให้ตัวเครื่องลดความบางเหลือเพียงแค่ 8.4 มิลลิเมตรเท่านั้น และมีหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีกล้องหน้าและหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล และใช้กระจก Gorilla Glass 4 ที่มีความหนาเพียง 0.4 มิลลิเมตร

ปากกา Surface Pen ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ 1 ปีเต็ม สามารถรับแรงกดได้แม่นยำถึง 1024 ระดับ โดยปากกาใช้การเก็บด้วยแม่เหล็ก สามารถแปะด้านข้างของตัวเครื่องได้เลย ทั้งยังมีการอัพเกรด Type Cover ใทำให้ปุ่มเหมือนโน้ตบุค มากขึ้นกว่าเดิม พิมพ์ได้ดีและเงียบขึ้น มี Trackpad ขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 40 % และรองรับการสัมผัสพร้อมกันถึง 5 จุด

โดยผมได้ทำการสรุปข้อดีและข้อเสียของมันมาให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน ดังนี้

ข้อดี

  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • ในการทำงาน เราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์สเปกแรงๆมากเกินไป ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้เล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ และชอบที่จะไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟละก็ Microsoft surface pro 4 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากๆ
  • Surface pen อันนี้นับได้ว่าเป็นไฮไลท์ การที่มีปากกาเขียนบนจอ จะช่วยให้การทำงานของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น
  • แบตเตอร์รี่ที่มีความจุมาก ใช้งานได้นาน การชาร์จเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้คุณใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานหลายชั่วโมง
  • สามารถเพิ่มความจุได้เองผ่าน Micro SD

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนค้างแพง
  • แม้ว่าจะสามารถเป็นได้ทั้งแทปเลตและโน้ตบุค แต่กลับพบว่ามันไม่สุดสักด้าน แต่ในภาพรวมแล้วถือว่ายังโอเคมากๆ

การใช้งาน

อย่างที่ทราบดีว่า Microsoft surface pro 4 เป็นได้ทั้งโน้ตบุตและแทปเลต ดังนั้นจะขอรีวิวการใช้งานในสองด้าน

การใช้งานเป็นแทปเลต

  • จอขนาด 12.3 นิ้วสร้างความสะใจในการอ่านเนื้อหาต่างๆบนหน้าเว็บ หรือกระทั่งการชมภาพยนตร์ ทั้งยังมี Stand ด้านหลังเครื่องที่ทำให้ใช้งานได้สะดวกแม้กระทั้งตอนนอน
  • จอคุณภาพดี มีความคมชัดขนาด 2K นับได้ว่าเป็นจอ Notebook อันดับต้นๆในตอนนี้
  • จอสัมผัสตอบสนองรวดเร็วไม่มีการหน่วง การทำงานของเครื่องเร็วมากด้วยผลของระบบประมวลผลอย่าง intel
  • คุณภาพเสียงที่ดี
  • แบตเตอร์รี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง
  • สามารถใช้งานเป็นสมุดจดได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดแข็งของ Microsoft surface pro 4 เนื่องจากมันรองรับ Surface pen นั่นเอง และนอกจากใช้เป็นสมุดจดแล้ว ยังเหมาะที่จะทำงานทางด้านกราฟฟิคกับโปรแกรมอย่าง Photoshop หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเมื่อใช้ปากกาแทนเม้าส์

การใช้งานเป็นโน้ตบุค

  • เทียบกับโน้ตบุคทั่วไปแล้วยังเสียเปรียบ เนื่องจาก Stand ข้างหลัง และ Keyboard ที่พับได้ที่เป็นข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถวาง Surface Pro ได้ในทุกสภาพการทำงาน
  • การใช้งาน wi-fi เป็นเวลานานๆทำให้แบตเตอร์รี่หมดไว สู้กับพวก ultra book ไม่ไหว

 

สิ่งที่มากับเครื่อง

  • Windows 10 ระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดจากทาง Microsoft ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ และรองรับการใช้งานผ่านระบบสัมผัสได้อย่างดีเยี่ยม โดยแนวคิดสำคัญของ Windows 10 คือ “One Windows” รวมทุกระบบปฏิบัติการของทุกอุปกรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว คือ ทุกอุปกรณ์จะมีระบบปฏิบัติการชื่อเหมือนกันหมด ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยันสมาร์ทโฟน ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับผู้ใช้งานให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและราบรื่นยิ่งขึ้น
  • Microsoft office 365 ช่วยให้การทำงานของคุณสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่  ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยด้วยเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ให้คุณออกแบบ ค้นคว้า ตรวจทาน รวมถึงจัดรูปแบบการแสดงข้อมูลนำเสนอได้ดียิ่งขึ้น และทำงานได้อย่างราบรื่นได้ทุกที่ด้วยแอป Office สุดโปรดของคุณ พร้อมทั้งทำงานต่อเนื่องจากตำแหน่งที่ค้างไว้ล่าสุดบนอุปกรณ์ใดก็ได้
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลกว่า 1TB บนระบบคลาวด์ของทาง Microsoft onedrive ที่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์งานของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังประหยัดการใช้งานพื้นที่หลักของอุปกรณ์ลงด้วย

 

คุณสมบัติ

Display
Screen: 12.3″ PixelSense display • Resolution: 2736 x 1824 (267 PPI) • Aspect Ratio: 3:2 • Touch: 10 point multi-touch

หน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียดที่ 2736 x 1824 (267 PPI) มีอัตราส่วนด้านกว้างต่อด้านยาว 3:2 รองรับการสัมผัสมากสุดถึง 10 จุด
Processor
6th Gen Intel Core i5

Software
Windows 10 Pro

Harddrive
128gb ssd

Memory
4GB RAM

Graphics
Intel HD graphics 515

Weight
766g (1.69 lbs)

Security
TPM chip for enterprise security

Wireless
802.11ac Wi-Fi wireless networking; IEEE 802.11a/b/g/n compatible
Bluetooth 4.0 wireless technology

Cameras, video and audio
5.0 megapixel front-facing HD camera
8.0 megapixel rear-facing autofocus camera with 1080p HD video recording
Stereo microphones
Stereo speakers with Dolby audio

Sensors
Ambient light sensor • Accelerometer • Gyroscope • Magnetometer

Ports
Full-size USB 3.0
microSD Card reader
Headset jack
Mini DisplayPort
Cover port
Surface Connect

 

อุปกรณ์เสริม

  • Type Cover สำหรับ Surface Pro 4 ให้ความรู้สึกและการใช้งานเหมือนคีย์บอร์ดแล็ปท็อปทั่วไป และมีแทร็กแพ็ดแบบกระจกที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อให้การควบคุมที่แม่นยำ

  • แท่นวาง Surface เปลี่ยน Surface ที่คุณพกพาสะดวกเป็นพิเศษให้กลายเป็นเดสก์ท็อปพีซีได้ทันที เพียงแค่เสียบ Surface Connect™ เพื่อชาร์จอุปกรณ์ของคุณและเข้าถึงจอภาพภายนอก คีย์บอร์ด เมาส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

  • Surface Pen เขียนและวาดอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการเขียนด้วยหมึกแม่นยำที่ปลายด้านหนึ่งและยางลบที่ปลายอีกด้าน ร่างภาพ แรเงา และลงสีอย่างแม่นยำและมีศิลปะด้วยจุดรองรับแรงกดถึง 4,096 จุดที่ตอบสนองต่อสัมผัสที่เบาที่สุด

  • Surface Arc Mouse ออกแบบมาให้เหมาะมือและปรับให้แบนราบได้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บในกระเป๋า เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

  • Wireless Display Adapter แสดงสิ่งที่อยู่ในแท็บเล็ต แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟนของคุณขึ้นบน HDTV หรือจอภาพ สตรีมภาพยนตร์เรื่องโปรด ดูภาพถ่ายวันหยุด หรือแสดงงานนำเสนอ – ทั้งหมดนี้ในแบบไร้สาย ใช้ร่วมกับโทรศัพท์ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป Windows 10 รวมถึง Surface ทุกรุ่นที่เปิดใช้งาน Miracast® โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

  • อะแดปเตอร์ Mini Display Port to VGA เสียบ Surface เข้ากับจอแสดงผล จอภาพ หรือโปรเจคเตอร์ที่รองรับ VGA เพื่อแชร์รูปภาพ วิดีโอ และไอเดียดี ๆ ของคุณ ใช้ได้กับ Surface ทุกรุ่น

จะเห็นได้ว่าสเปกของ Microsoft surface pro 4  นั้นสูงมาก เมื่อเทียบเคียงกับโน้ตบุคทั่วๆไปที่ใช้งานอยู่ตามท้องตลาด

โดยหากใครที่สนใจจะลองเป็นเจ้าของของ Microsoft surface pro 4 ตัวนี้สามารถสั่งซื้อได้เลยผ่านทาง lazada ที่ลิงค์นี้เลยครับ >>สั่งซื้อ Microsoft Surface Pro4

 

สำหรับวันนี้ ขอจบเรื่องราวของเราเอาไว้แค่นี้ก่อน ไว้โอกาสหน้าจะมาขอเขียนรีวิวอุปกรณ์เจ๋งๆอีกนะครับ

Windows 10 ระบบปฏิบัติการที่รวมทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียว

หลังจากที่ทาง Microsoft ได้ประกาศเปิดตัว Windows 10 อย่างเป็นทางการไปเมื่อหลายเดือนก่อน คราวนี้ก็ถึงคราวเจาะลึกข้อมูลของมันกันครับ

ทำไมถึงเป็น 10 แล้ว 9 หายไปไหน?….ที่มันเป็น 10 ก็เพราะ Microsoft เคยใช้เลข 9 นำหน้ามาแล้วใน 95 และ 98 จึงไม่อยากซ้ำรอยครับ

One Windows รวมทุกระบบปฏิบัติการไว้ในหนึ่งเดียว

แนวคิดสำคัญของ Windows 10 คือ “One Windows” รวมทุกระบบปฏิบัติการของทุกอุปกรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว คือ ทุกอุปกรณ์จะมีระบบปฏิบัติการชื่อเหมือนกันหมด ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยันสมาร์ทโฟน ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับผู้ใช้งานให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและราบรื่นยิ่งขึ้น

1แล้ว…มันมีอะไรใหม่?

แน่นอนว่าทุกครั้งที่มีการออกระบบปฏิบัติการตัวใหม่ออกมานั้น ก็ย่อมมีลูกเล่นใหม่ๆให้ผู้ใช้ได้สัมผัส เริ่มต้นจาก

1.Start menu

ขอแสดงความยินดี มันกลับมาแล้วครับ หลังจากหายหน้าหายตาไปใน Windows 8 และ 8.1

WIndows-10-UI

2.Multitasking แบบใหม่

ช่วยในการสลับการทำงานระหว่าง App ที่ดียิ่งขึ้น

phptiiomk

3.สามารถทำงานได้หลายหน้าต่างพร้อมๆกัน

QzAmDVW

4.Microsoft Edge

สำหรับใครที่ไม่พอใจ Internet Explorer ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ Windows 10 มากับ browser ตัวใหม่ ที่ไฉไลกว่าเดิม

1920x1080xEdgeNewTab.jpg,qitok=J5IKA-gf.pagespeed.ic.9jvn8xGnzC

5.Cortana

ผู้ช่วยตัวเก่ง ที่ช่วยคุณได้ง่ายๆเพียงสั่งการด้วยเสียง…(แต่ต้องมั่นใจในสำเนียงนะครับ)

windows-10-cortana-9325-009

โดยที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นคุณสมบัติเด่นๆของระบบปฏิบัติการนี้ครับ โดยในตอนนี้ Windows 10 นั้นยังคงเป็นรุ่น preview ก็คือยังไม่ใช้ตัวเต็ม 100% แต่ผู้ใช้สามารถโหลดมาใช้งานได้ โดยการอัพเดตผ่านทาง Windows ตั้งแต่ Windows 7 ขึ้นไปสามารถอัพเดตได้ฟรีครับ

ยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ เมื่อทุกสิ่งอยู่บน Cloud

ยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ เมื่อทุกสิ่งอยู่บน Cloud

ในทุกๆวันนี้ โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับเราในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบริการ wi-fi สาธารณะ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุม แอพพลิเคชั่นช่วยนำทางหรือแม้แต่การจองตั๋วหนังตั๋วเครื่องบิน

ลองจินตนาการถึงยุคที่เราสามารถฝากสิ่งของ ไฟล์สำคัญ เอกสารต่างๆไว้ในอินเตอร์เน็ตที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถหยิบออกมาใช้ได้ทุกเมื่อทุกที่ทุกเวลา คอนเซปดังกล่าวจึงเป็นที่มาของระบบ Cloud service ซึ่งเปรียบก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนฟ้าเป็นดั่งข้อมูลที่เราฝากไว้ในระบบ ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวได้ถูกออกแบบมาแล้วหลายปี และมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เราต้องคอยพกพาแฟลชไดฟ์เพื่อบันทึกเอกสารไว้ใช้ในการทำงานกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ พัฒนาเป็นการที่เรานำเอกสารเหล่านั้นฝากไว้ใน cloud แล้วสามารถเข้าถึงมันในทุกๆอุปกรณ์ จากที่เราต้องลงโปรแกรมเพื่อพิมพ์เอกสาร พัฒนาเป็นการที่เราใช้โปรแกรมเอกสารที่มีพร้อมให้ใช้งานได้ทันทีบนระบบอินเตอร์เน็ต

atelier-professionals-working-tablet

ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านรับฝากไฟล์ในรูปแบบ Cloud storage ให้เลือกใช้ได้หลายแห่ง แต่ที่คุ้นหูมากที่สุดก็คือ Dropbox , Onedrive ,Gdrive และ icloud ซึ่งบริการเหล่านี้เราสามารถเข้าถึงมันได้จากอุปกรณ์แทบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ PC คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค แท๊บเล็ต หรือแม้แต่โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ส่งผลให้ระบบ cloud เติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากความสะดวกสบายของมันนั่นเอง โดยในระบบของ Gdrive และ Onedrive นั้นได้มีโปรแกรมจัดการเอกสารให้พร้อมในตัว ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ในอีกขั้นครับ

OfficecomHomeCrop780

แต่เทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย ผมจึงสรุปข้อดีและข้อเสียของมันมาฝาก

ข้อดี

  • เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องนำงานกลับมาทำที่บ้าน หรือ เดินทางบ่อยๆ
  • ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมลงในคอมพิวเตอร์
  • มีบริการและแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย
  • ความปลอดภัยของข้อมูลค่อนข้างสูง
  • ไม่ว่าจะเป็น PC หรือ MAC ก็ทำงานร่วมกันได้
  • อุปกรณ์ต่างชนิดกัน ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเดียวกันได้

ข้อเสีย

  • อาศัยอินเตอร์เน็ตในการใช้งาน Cloud Service ดังนั้น การทำงานจะช้าหรือเร็ว
    จึงขึ้นอยู่กับความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
  • ผู้ให้บริการ Cloud Service มีการเรียกจัดเก็บค่าใช้บริการ แต่ก็ไม่ถึงกับแพงมากมายเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับแต่แน่นอนว่าการให้บริการฟรีก็มีเช่นกัน แต่อาจจะจำกัดพื้นที่ หรือ ความสามารถบางประการ

-สวัสดีปีใหม่ 2558 ครับ-